ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
SCB-Julius Baer (Singapore) Pte. Ltd.
บทนำ
SCB-Julius Baer (Singapore) Pte. Ltd. (“บริษัท”) ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของลูกค้าบริษัท จึงจัดให้มีประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อลูกค้าบริษัทได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา (“ท่าน”) ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ของประเทศไทย (“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
โดยประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัท
ทั้งนี้ นอกจาก พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แล้วนั้น บริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศสิงคโปร์ (Singapore Personal Data Protection Act 2012) ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จัดทำขึ้นเพื่อการปฏิบัติตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เท่านั้น บริษัทอาจประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมให้แก่ท่านหากมีกฎหมายที่ใช้บังคับอื่น ๆ (เช่น Singapore Personal Data Protection Act 2012) กำหนดไว้
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
- ลูกค้าของบริษัท
- ลูกค้าบุคคลธรรมดา: ลูกค้าเดิมและลูกค้าปัจจุบันของบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
- ลูกค้าองค์กรธุรกิจ: กรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง พนักงาน ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน และผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจเดิมและปัจจุบัน รวมถึงบุคคลธรรมดาอื่นที่มีอำนาจในการกระทำการแทนลูกค้าองค์กรธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทขอแนะนำให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัทดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนหรือบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องใด ๆ รับทราบถึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท
- บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท
บุคคลดังกล่าวรวมถึงบุคคลธรรมดาที่ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ผู้ลงทุน บุคคลที่ได้ชำระเงินให้แก่หรือรับเงินจากลูกค้าของบริษัท บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท หรือเข้าใช้บริการที่สำนักงานของบริษัท ผู้ค้ำประกันหรือผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง กรรมการหรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของนิติบุคคลที่ใช้บริการของบริษัท ลูกหนี้ของลูกค้าของบริษัท ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ รวมถึงกรรมการ ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัท และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับบริษัทหรือลูกค้าของบริษัท
ทั้งนี้ โปรดทราบว่าลิงค์ที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มของบริษัทสามารถนำท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกได้ ซึ่งหากท่านได้เข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกแล้วการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นเมื่อท่านเข้าใช้แพลตฟอร์มนั้น ๆ
1. บริษัทเก็บรวบรวมและนำข้อมูลของส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ดังต่อไปนี้
1.1. ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎเกณฑ์ที่ออกภายใต้พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) ซึ่งรวมถึง การดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบประวัติ การตรวจสอบเครดิต การทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Client) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) และการตรวจสอบอื่น ๆ รวมถึงการตรวจสอบจากฐานข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานกำกับดูแล และ/หรือ ข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนด ) และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง (เช่น การเฝ้าระวังธุรกรรม) และ/หรือ
- เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ (เช่น ประเมินความเหมาะสม) และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ)
1.2. สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญากับบริษัท การพิจารณาอนุมัติเกี่ยวกับการให้บริการผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ การส่งมอบผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการแก่ท่าน และการจัดการในเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ของบริษัท ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของบริษัท หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง
- ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมใด ๆ
- ให้บริการการจัดการกองทุนส่วนบุคคลและนายหน้า (ได้แก่ Product and Securities Recommendation Services (PSR) , Investment Advisory Services (IAS) , Specific Investment (SI) , Discretionary Mandates and Portfolio Funds Management (DPM) models)
- ดำเนินการเปิดบัญชีผู้รับฝากทรัพย์สินกับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
- ให้บริการ Automatic Transfer System (ATS) ซึ่งดำเนินการโดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ให้บริการลงทุนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (online investment) และแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile applications)
- ติดตาม หรือบันทึกการทำธุรกรรมของท่าน
- จัดทำรายงานต่าง ๆ (เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ท่านร้องขอ หรือรายงานภายในของบริษัท)
- แจ้งเตือนการทำธุรกรรม
- เรียกชำระหนี้ที่ท่านค้างชำระอยู่กับบริษัท (เช่น ในกรณีที่ท่านยังไม่ได้ชำระหนี้ และ/หรือค่าธรรมเนียมค้างชำระ)
- ดำเนินการเกี่ยวกับการดำรงบัญชีและการปฏิบัติการที่เกี่ยวกับบัญชีของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การดำเนินการเกี่ยวกับคำขอ หรือการขอใช้บริการ และ/หรือ ผลิตภัณฑ์ การดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมของท่าน การออกใบยืนยันการซื้อขายแบบเป็นทางการ (trading confirmation) รายงานแสดงความเคลื่อนไหวรายเดือน (monthly statement) และรายการบัญชีของท่าน และการดำเนินการและการปิดบัญชีของท่าน
- ดำเนินการหรือเข้าทำธุรกรรม และ/หรือ ชำระเงิน (เช่น การดำเนินการชำระเงินหรือทำธุรกรรม การดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม การเรียกเก็บเงิน หรือดำเนินกิจกรรม บริหารจัดการความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีของท่านที่มีอยู่กับบริษัท) และตอบข้อสงสัย หรือข้อเสนอแนะของท่าน หรือดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่าน
- บังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท
- จัดให้มีการสนับสนุนทาง IT และ helpdesk สร้างและรักษารหัสและบัญชีผู้ใช้ของท่าน จัดการการเข้าถึงระบบใด ๆ ตามที่ท่านได้รับสิทธิในการเข้าถึง และยกเลิกบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน และ/หรือ
- จัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุนให้แก่ท่าน (รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนของบุคคลภายนอกซึ่งท่านอาจสนใจ) เป็นครั้งคราว และจัดการเรื่องทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์การลงทุนดังกล่าว
1.3. ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
บริษัทจะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทหรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- บริหารกิจการของบริษัท ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร (เช่น กำกับตรวจสอบ บริหารจัดการและการวิเคราะห์ความเสี่ยง เฝ้าระวัง ป้องกัน ระบุ และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท ซึ่งอาจเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ รวมถึงการระบุตัวตนของท่านเพื่อป้องกันอาชญากรรมดังกล่าว)
- บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน (เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ จัดการข้อร้องเรียน)
- รักษาความปลอดภัย (เช่น บันทึกภาพ CCTV ลงทะเบียน แลกบัตรประจำตัวประชาชน และ/หรือบันทึกภาพผู้ติดต่อก่อนเข้าอาคารของบริษัท)
- พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ รวมทั้งระบบงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของบริษัท และ/หรือ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน
- บันทึกภาพ และ/หรือ เสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สัมมนา สันทนาการ หรือกิจกรรมส่งเสริมการตลาด
- กรณีลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือตัวแทน
- ดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท
- จัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท รวมถึง การดำเนินการแก้ไขข้อพิพาท การเริ่มดำเนินการ การใช้สิทธิ หรือการโต้แย้งข้อเรียกร้องทางกฎหมาย
- ติดต่อท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
- ประเมินคุณสมบัติ การเสนอข้อเรียกร้องเพื่อการเสนอราคาและการประกวด และการเข้าทำสัญญากับท่าน
- ป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (เช่น การเฝ้าติดตามข้อมูลการใช้เครือข่าย (network activity logs) การระบุเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย (security incidents) การดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันอื่นใดต่อการกระทำที่ประสงค์ร้าย หลอกลวง ฉ้อฉล หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย)
- ปฏิบัติตามกฎหมายต่างประเทศ
- บริหารโครงสร้างบริษัท (ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บข้อมูล) การควบคุมภายใน การดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการของบริษัท ซึ่งรวมถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมความเสี่ยง ความปลอดภัย การตรวจสอบบัญชี การเงินและการบัญชี ระบบและการดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ ของบริษัท
- ทำวิจัย วางแผน และทำการวิเคราะห์ทางสถิติ เช่น ข้อจำกัดในการลงทุนและพฤติกรรมการลงทุนของท่าน การวิเคราะห์ข้อมูล) การประเมิน การสอบถามและรายงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัทและพฤติกรรมของท่าน
- จัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม สัมมนา และการเยี่ยมชมองค์กรต่าง ๆ (company visits)
- อำนวยความสะดวกแก่การตรวจสอบทางบัญชีซึ่งกระทำโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการจากที่ปรึกษากฎหมายที่ถูกแต่งตั้งโดยท่านหรือบริษัท
- ในกรณีที่มีการขาย การโอน การควบกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน บริษัทอาจเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกรายใดรายหนึ่งหรือหลายรายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมดังกล่าว
- เก็บรักษาและแก้ไขปรับปรุงรายชื่อหรือสมุดรายนามของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน) และจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงท่านในเอกสารเหล่านั้น
- ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางธุรกิจอันสมควร (เช่น การจัดการ การอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุมหรือบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์และวางแผนสถิติและแนวโน้ม หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน การจัดให้มีการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้และทำให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบ IT ทำให้ระบบของบริษัทมีความปลอดภัย การพัฒนา จัดให้มี ดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบ IT ของบริษัท) และ/หรือ
- ดำเนินการพัฒนาแบบจำลองการป้องกันการทุจริต (fraud prevention) การพัฒนาแบบจำลองการประเมินความเสี่ยงและความน่าเชื่อถือทางด้านการเงิน (underwriting) การพัฒนาแบบจำลองการเรียกเก็บเงิน (collection) การพัฒนาแบบจำลองด้านรายได้ (proxy income) และติดตามผลของแบบจำลองความเป็นไปได้ในการอนุมัติ (propensity to approve)
1.4. ความยินยอมของท่าน
ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) (เช่น ใช้บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของท่าน (ซึ่งจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา กรุ๊ปเลือด และ/หรือเชื้อชาติอยู่) ประวัติอาชญากรรมและข่าวในทางลบซึ่งจะมีข้อมูลด้านอาชญากรรม ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม และการดำเนินการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Client) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) และ/หรือ ข้อมูลสุขภาพและความพิการ (เช่น สมรรถภาพร่างกายและความสมบูรณ์ทางจิตใจ) ในการประเมินความเหมาะสม ความเปราะบาง และความสามารถในการลงทุนของท่าน)
- เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านไปวิจัยและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่าน
- กรณีท่านเป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจาก ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) และ/หรือ
- เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร และพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านเพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ตอบสนองความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ (2) ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ
1.5. ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังต่อไปนี้
- จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
- ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่
หากข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านมีความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทหรือเพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน บริษัทอาจจะไม่สามารถให้บริการ (หรือดำเนินการเพื่อให้บริการต่อไป) ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการบางส่วนหรือทั้งหมดของบริษัทแก่ท่านได้หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านอาจเคยใช้หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้
ประเภทข้อมูล | ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดส่วนบุคคล |
|
รายละเอียดการติดต่อ |
|
รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน |
|
รายละเอียดการทำงาน |
|
รายละเอียดทางการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท |
|
ข้อมูลการวิจัยตลาด ข้อมูลการตลาดและยอดขาย |
|
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน และรายละเอียดทางเทคนิค |
|
ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ |
|
ข้อมูลการเข้าใช้ การขอใช้บริการ และรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ |
|
รายละเอียดการใช้งาน |
|
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย |
|
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว |
|
ข้อมูลอื่น ๆ |
|
3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง (เช่น ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ ผู้จัดการกองทุน ที่ปรึกษาการลงทุน และ Call Center) แต่ในบางกรณีบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาโดยอ้อม จากแหล่งอื่น (เช่น สื่อสังคมออนไลน์ (social media) แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือ แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) และผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด) Bank Julius Baer & Co. Ltd., Singapore Branch บริษัทในเครือ (เช่น SCB-Julius Baer (Singapore) Pte. Ltd.) ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หรือบุคคลภายนอก (เช่น ผู้แทนของท่าน นายจ้าง ผู้สนับสนุน (sponsor) และบุคคลภายนอกที่มีบทบาทในการให้บริการแก่ท่าน หรือบุคคลใด ๆ ที่ดำเนินการในนามของบุคคลดังกล่าวซึ่งอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับท่านแก่บริษัท ผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับฝากทรัพย์สินช่วง นายหน้า และจากลูกค้าองค์กรธุรกิจในฐานะที่ท่านเป็นผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ ตัวแทน หรือผู้ติดต่อ ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด
4. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถเริ่มใช้สิทธิตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น - สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน - สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน - สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย - สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท) - สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย - สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ หากท่านถอนความยินยอม บริษัทอาจไม่สามารถเสนอผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางประเภทแก่ท่าน (หรือเสนอผลิตภัณฑ์หรือให้บริการอย่างต่อเนื่องบางประเภทแก่ท่าน) - สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และ SCB-Julius Baer (Singapore) Pte. Ltd.) พันธมิตรทางธุรกิจ (ซึ่งรวมถึง ผู้รับเงิน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้แทนในบัญชี (account nominees) ตัวกลาง (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นบุคคลภายนอก หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) ผู้รับฝากทรัพย์สิน ธนาคารตัวแทน (correspondents) ผู้ขาย พันธมิตรธุรกิจร่วม (co-brand business partners) คู่สัญญา (market counterparties) ผู้ออกผลิตภัณฑ์ หรือระบบคลังข้อมูลทางการค้าโลก (global trade repositories)) Bank Julius Baer & Co. Ltd. (ในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท) รวมทั้งสาขาและบริษัทในกลุ่มทั้งหมดของ Bank Julius Baer & Co. Ltd. และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว
- หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด
- คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น (เช่น สมาคมวิชาชีพที่บริษัทเป็นสมาชิก ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ คลังเก็บเอกสาร สถาบันการเงินต่างประเทศ และสำนักหักบัญชี ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม)
- บุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบรวมกิจการของบริษัท ซึ่งบริษัทอาจต้องมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร การโอนกิจการ ข้อตกลงทางการเงิน การจำหน่ายทรัพย์สิน หรือธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ และ/หรือ ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท
- ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลภายนอก ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อช่วยให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินคืนในกรณีที่มีการนำเงินเข้าบัญชีของท่านโดยผิดพลาด หรือการตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ท่านตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่มีเงินที่ต้องสงสัยเข้ามายังบัญชีของท่านจากอาชญากรรมทางการเงิน
- ตัวแทนทวงถามหนี้ ทนายความ บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล หน่วยงาน หรือบุคคลใด ๆ ที่บริษัทถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง
- บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท (เช่น ผู้ให้บริการด้าน IT (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และ Bank Julius Baer & Co. Ltd., Singapore Branch) การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบทางการตลาด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่กระทำการแทนบริษัท เช่น บริษัทที่จัดพิมพ์และนำส่งรายการ (statements))
- ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน และบุคคลอื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัท โดยบริษัทโฆษณาภายนอกอาจใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ
- ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก
- บุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน เช่น บริษัทประกันภัยที่เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยให้กับท่าน และ/หรือ
- ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
เนื่องจากกิจการการลงทุนในปัจจุบันเป็นธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วโลก ในบางครั้งบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ในกรณีนี้บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
- ได้แจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางและได้รับความยินยอมจากท่าน
- ปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านทำไว้กับบริษัท หรือตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา (เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลที่จะดำเนินการโดย Bank Julius Baer & Co. Ltd., Singapore Branch สำหรับบริการ Products and Securities Recommendation (PSR), Specific Investment (SI), Discretionary Mandates and Portfolio Funds Management (DPM) การจัดการกองทุนส่วนบุคคล)
- ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน
- ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ หรือ
- ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัทและเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัท (เช่น หลังจากที่ท่านปิดบัญชีที่มีอยู่กับบริษัท หรือนับแต่การทำธุรกรรมกับบริษัท หรือกรณีบริษัทปฏิเสธคำขอใช้บริการของท่าน หรือท่านขอยกเลิกการใช้บริการของบริษัท) บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) นอกจากนี้บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ และ/หรือ การบันทึกเสียงการให้บริการ เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายังบริษัท
8. การใช้คุกกี้
บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัท รวมถึงการใช้เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของบริษัท
การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำท่าน ทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น)
9. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
10. การรักษาความปลอดภัย
บริษัทมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล (เช่น VPN, Citrix และการใช้รหัสผ่านในการเข้าระบบ) โดยบริษัทกำหนดให้บุคลากรของบริษัทและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
11. วิธีการติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อบริษัทผ่านตัวแทนของบริษัท (คือบริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด) ทาง Call Center โทร. +65 6973 2020
นอกจากนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท โดยติดต่ออีเมล PDPA_enquiries@scbjuliusbaer.com หรือติดต่อสำนักงานของบริษัทที่ SCB-Julius Baer (Singapore) Pte. Ltd. 9 Straits View, #08-10A Marina One West Tower, Singapore 018937
12. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว ฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท (www.scbjuliusbaer.com)
ฉบับเดือน มกราคม 2564